เคยสงสัยมั๊ยว่า อะไร ที่ทำให้เราๆ ท่านๆได้มาพบกัน?
เพราะโลกใบนี้หมุนรอบดวงอาทิตย์ ทุกวันหรือเปล่า?
หรือเพราะทุกสิ่งอย่างในจักรวาลนี้ ผูกเชื่อมโยงกันไว้แล้ว?
ภาษามนุษย์โลกเค้าเรียกว่าโชคชะตาหรือพรหมลิขิต
ชีวิตกับดวงดาวทั้งสอง ส่องแสงยามค่ำคืน ถึงแม้จะ
ไม่สว่างพอเท่าดวงจันทร์
แต่ทะว่า
งดงามยามค่ำคืนในระดับที่จะทำให้ใครสักคน เฝ้ามองอย่างชื่นชมเสมอ
ดวงดาวแห่ง Brett, Yoshiki san กับอีกดวงหนึ่งที่หายไป
เป็นตำนานกล่าวขาน Hide san เปลี่ยนสายกีต้าร์ใหม่
ก้อเหมือนชีวิตได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นั่นเป็นเรื่องของท้องฟ้าตอนกลางคืน
ข้างล่างล่ะ? เมืองไทยก็มีการประท้วงตามปกติ เห็นมาตั้งแต่เด็ก
ตอนนี้แก่แล้วก็ยังเห็นอยู่อ่ะ ถ้าเรามีลูก ลูกก็คงจะเห็นเช่นกัน
มีคนเจ็บ คนเสียชีวิตจากความขัดแย้ง เพราะความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน
ในสังคมที่ยึดถือระบบเส้นสาย ระบบอาวุโส นี่คือจุดอันตราย
เพราะถ้าผู้อาวุโสไม่อยู่ในเงื่อนไข ไม่เคารพ กฎหมาย
ไม่มีคุณธรรมแล้วล่ะก็ อันตรายอย่างเดียว คนธรมมดาเส้นก๋วยจั๊บ
อย่างเราๆ คือทำหน้าที่ของตัวเองให้คลาสสิค และสวดมนต์เผื่อพวกเค้า
กับคนบางคนบางกลุ่ม ทั้งกฎหมาย นักวิชาการออกมาเตือนสติ
ใช้กับพวกเค้าไม่ได้หรอก มันเหมือนความดีใช้เกียร์แมนนวล
ส่วนอะไรๆที่มันไม่ดี มันติดเกียร์ออโต้ไฮคลาสประมาณนั้น
โดยเฉพาะที่เมืองไทย ซึ่งมีปัจจัยสี่ สมบูรณ์แบบที่สุดในโลก
ไม่ว่าจะเป็น อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย และยารักษาโรค
ว่ากันว่า เพราะเราไม่ต้องขนขวายหาสิ่งเหล่านี้อย่างยากลำบาก
เราไม่มีภัยธรรมชาติ เช่นแผ่นดินไหว หิมะถล่ม เหมือนประเทศอื่นเค้า
เราเลยหันมาทะเลาะกันเองเป็นงานอดิเรก อย่างเอาเป็นเอาตาย
กับชีวิตที่ไม่อยากเลือกข้างใดเลย
ในสถานะที่มี เพื่อนเป็นสาวกมือตบ มีป้าเพื่อนบ้านชั้นล่าง เป็นสาวกเท้าตบ
กรูเลยรับมาเต็มๆ “ทำไงได้ล่ะ มันก็ต้องรับกรรมกันทั้งประเทศล่ะ”
คำพูดอันแสบทรวงตอนมีเรื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วตอนนี้ล่ะเค้าจะแห่
“เหยื่อ” ในนามวีระบุรุษไปรอบๆเมือง “เต่าในกระดอง ขี้ขลาด ไม่รักชาติ”
อ้าว ชั้นก็ทำงานเป็นปกติของชั้นอยู่ดีๆชั้นมีพ่อ มีตัวเองที่ต้องรับผิดชอบ
คุณมีหน้าที่ประท้วงคุณก็ทำหน้าที่คุณไปสิ จะอยู่ข้างไหนก็อยู่ไปสิ
อย่ามายุ่งกับชั้น แต่ขอให้กำลังใจทั้งสองฝ่ายละกัน อะไรมันจะเกิด
มันก็ต้องเกิดล่ะ ถึงบ้านนี้จะพัง ชั้นจะเดือดร้อน
ชั้นก็ไม่มีวันเข้าไปคลุกวงในเด็ดขาด
No comments:
Post a Comment