ชีวิต

ถึงไหนแล้วอ่ะ? คำถามมากมาย ที่ค้นพบคำตอบเมื่ออายุมากขึ้น ตอนนี้เราผ่านมาสามช่วงแระ

1-15 ขวบหมดไปกับความเป็นเด็กน้อย กิน เรียน เล่น

15-24 ปี หมดไปกับการเรียนระดับมัธยมและ เรียนป.ตรี เรียนไปด้วย ทำงานในโรงแรมไปด้วย เพื่่อให้ความฝันเป็นจริง พร้อมๆกับเจียดตังค์บางส่วนส่งหลานสาวเรียนมัธยมปลาย เตี้ยอุ้มค่อมล็อตแรก เรียนรู้การสูญเสียครั้งแรกในชีวิต คุณแม่ไปสววรค์แล่ว

24-28 ปี รู้สึกว่าชีวิต ไม่มีเวลาเกเรเลยเป็นเด็กเรียนและทำงานมาตัลหลอด จัดให้ซะหน่อย ทำงาน ตกงาน ได้งาน ไม่เรียนอะไรเลย เคยมีแฟน เลิกกะแฟน ประมาณนี้

ชีวิตบ่อยครั้งมันเคว้งๆ อยากกลับบ้านไปอยู่กับคุณพ่อ แต่เหมือนชีวิตมันเพิ่งเริ่มต้นตอนเรียนจบป.ตรี
มาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง พ่อขอให้เรียนป.โท ต้องระเห็จจากงานโรงแรมอีกรอบเพื่อออกมาเรียนให้พ่อ

28-34ปี ช่วงนี้เลยถือโอกาสเรียน ภาษาญี่ปุ่นควบคู่ไปด้วย พร้อมๆกับงานสอนภาษาไทยให้กับชาวต่างชาติ เปิดโรงเรียนเอง และหวนกลับเข้าไปทำงานโรงแรมอีกรอบ เจียดตังค์ส่งหลานชายล็อตสองเรียนเทคโนๆ

35ปี-ปัจจุบัน ทำงานในโรงแรมอีกรอบ รับงานสอนบ้าง เก็บตังค์ไว้ดูแลตัวเองตอนอายุมากขึ้น พ่อตามแม่ไปอยู่สวรรค์ เราพยายามส่งหลานเรียนม.ปลาย ล็อตสามอีกคน เราเริ่มเข้าไปฝึกนั่งสมาธิหลังจบป.โทเพาระคิดถึงแม่มากๆ หลังๆที่พ่อจากไป มีคำถามผุดขึ้นมาอีกแระ นี่ครือความหมายของชีวิตเหรอมมม ที่ีสำคัญกรูวโสด เป็นลูกกำพร้าอิ๊ ชีวิตจะคัลเลอร์ฟูลไปไหน

ถ้ามองย้อนกลับไป ไม่เคยเสียใจกับเส้นทางชีวิตตัวเองเลย แต่รู้สึกผิดกับการที่เราเรียนๆทำงานๆ เพื่อดูแลหลายๆชีวิต เราต้องแลกกับการที่ไม่ได้อยู่ดูแลพ่อ หรือแม่ใกล้ๆ ได้อย่างเสียอย่างจิงๆ

ภาษาที่ชอบ 

เราเริ่มฝึกตัวเองให้คุ้นเคยกับภาษาอังกฤษตั้งแต่เราเริ่มรู้ตัวว่า สมองกรูไม่รับรู้อะไรได้ดีซักกะอย่างที่เกี่ยวกับตัวเลข นี่ไล่มาเลย เคมี คณิต ฟิสิกส์ เพลียข่ะ นี่เรียนสายวิทย์ คณิตแท้หล่าว

ภาษาอังกฤษเปรียบเป็นโลกที่กว้างมาก เป็นเหมือนประตู หน้าต่าง ที่จะทำให้เราเห็นอะไรๆเยอะแยะ เป็นร่างทรงที่สื่อถึงทุกภาษาเรย

ภาษาฝรั่งเศส ด้วยความที่เคยอยากเป็นนักการทูตเลยเรียนภาษานี้ ได้ใช้คุยกับแฟนด้วย รู้สึกว่าเค้าเป็นภาษาที่ไพเราะมากเวลาพูดอ่ะนะ บ๊องๆแบ๊งๆกะป๊องกะแป๊ง ฮ่อวนั่ลลักอ่ะ

ภาษาเยอรมัน อินี่เทอว์ อิชั้นหนีจากวิชาโทภาษาฝรั่งเศษ แระมาเจอเทอว์ ที่ยากส์กว่านะ แต่ตื่นเต้นมากในครั้งแรกที่พูดได้ คิดว่าเทอว์เป็นภาษาที่ยากที่สุดในบรรดาภาษาที่เรียนๆมา

ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาเดียวในภาคพื้นเอเชีย ที่เลือกเรียน นอกสภาบันการศึกษา มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนรัฐ เค้าเป็นหนึ่งในสองทางเลือกระหว่างภาษาเกาหลี กะญี่ปุ่น คิดหนักเรย แต่ก้อเราเลื่อกเรียนญี่ปุ่น เพราะในเชิงธุรกิจ เค้าใช้ได้ตลอดแม้ข้อจำกัดด้านอายุจะมีมากก้อตาม เผลอๆอาจใช้เรียนจีนได้ด้วย อักษรบางส่วนเหมือนกัน เราภูมิใจมากที่ได้พูดภาษาญี่ปุ่น

สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยน

ดนตรีที่ฟัง คงสถานะ แหกปาก เร็ว เสียงดัง กีต้าร์โอ เค้าเรียกว่าร็อคป่ะ

7 ปี กับ Bon Jovi หลังจบป.ตรีแหวนวงนั้นหลุดจากนิ้วมือ จมหายไปที่เกาะเสม็ด ไม่เสร็จทุกราย แถมเลิกกับแฟนอีกต่างหาก เราจิขำดีมั้ยอ่ะ

15 ปี กับเฮียเจ้ ณ Suede เป็นวงเดียวที่โตมาด้วยกันอย่างมีสติ  ได้เจอเมมเบอร์ และไปคอนด้วย Suede นำพาเพื่อนญี่ปุ่น เพื่อนโปรตุเกส และภาษาญี่ปุ่นมาให้เราในยุคแรกๆ เราก้อเริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นจากตรงนี้ ผลครือ มันไม่เข้าหัวข่ะ เกิดสึนามิที่ภูเก็ตพอดี แล้วเราก้อผ่านการสอบเข้าเรียนป.โท รอบที่สองด้วยข้อสอบเกี่ยวกับศูนย์ช่วยเหลือชาวต่างชาติจากภัยสึนามิ

2 ปีแล้วกับ FT Island เราเจอกันในความพยายามเรียนภาษาญี่ปุ่นครั้งที่สอง เอฟที เทอว์ครือวงญี่ปุ่นใช่หรือไม่ ผิดข่ะ วงร็อคเกาหลี 100% ยังไม่พอ ที่ญี่ปุ่นเกิดสึนามิข่ะ มันครืออัลไล ทำไมต้องเกิดตรงกับการเรียนภาษาญี่ปุ่นรอบสองฟระ นี่กัวเลย เราไม่กล้ากลับเข้าไเรียนญี่ปุ่นรอบสาม เวลาฟังเอฟทีเลยต้องดูจากภาษาอังกฤษสุดฤทธิ์

ว่าแต่บั้มเอฟทีจะถึงเมือไหร่อ่ะ นี่อยากเปิดซิงแกะปกซีดีนะ ไม่อยากโหลดฟรีเหมือนปกติที่ทำอยู่อิ๊็ เด็กๆต้องได้ตังค์ข่ะเมนนูน่า ท่านลีดต้องมีตังค์ชื้อ BearBrick บอกเลย 5.....Go อ่านว่า โกะ เต็งเต็ง เต็ง เต็ง เต็ง โก

เราเริ่มบริจาคตังค์บ้างตามโอกาสและบริจาคเลือดได้เจ็ดคร้ังแร่ว พ่อไม่เคยตีนะพูดเรย หมอเปงคัยอ่ะ ก้อเจ็บจิ๊ดน่ะตอนคุณหมอแทงเข็ม แต่สักวันคนเราก้อต้องเจ็บป่วยป่ะ เวลาแก่ๆ ดังนั้นเข็มเจาะเลือดแค่นี้ สีทนได้ข่ะ ทุกๆสามเดือนเจอกันที่สภากาชาด me/ กินไข่ บำรุงรัวๆ

เรามีความทรงจำกับพ่อแม่เยอะจิง เพราะเป็นลูกคนเล็ก  เราคิดว่าไม่มีครอบครัวก้อไม่เป็นไร ถึงเวลามันก้อมาเอง ใช้ชีวิตที่เหลือให้เป็นประโยชน์ได้เช่นกัน กับการตั้งโรงเรียนเล็กๆ เหมาะกับกำลังของเราสอนเด็กๆซ๊ะ เป็นการดีที่ชีวิตไม่มีห่วงแระ ชีวิตยังต้องดำเนินต่อปาย แบบแมนๆ








No comments:

Post a Comment